Anti-Aging /Wrinkles

ผลัดเซลล์ผิวดีอย่างไร?

สำหรับคนที่ไม่เคยผลัดเซลล์ผิวโดยการใช้ AHA หรือ BHA มาก่อนแล้วล่ะก็ คุณกำลังพลาดประโยชน์ดีดีของ AHA หรือ BHA ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าการสครับผิวด้วยวิธีอื่นๆ การใช้ AHA หรือ BHA ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง? ช่วยให้ริ้วรอยต่างๆ แลดูลดลง ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าหมองคล้ำหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ ช่วยปรับสภาพผิวให้เนียนเรียบขึ้น แก้ไขปัญหารูขุมขนกว้างหรือรูขุมขนอุดตัน เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เพราะเหตุใด AHA หรือ BHA จึงเป็นสิ่งสำคัญ? การผลัดเซลล์ผิวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าการที่ผิวของเราไม่ได้รับการปกป้องจากแสงแดด เมื่อผิวโดนทำลายด้วยแสงแดดบ่อยๆ เข้า ประสิทธิภาพของผิวในการผลัดเซลล์ตัวเองลดน้อยลง เหตุนี้เราถึงต้องใช้ AHA หรือ BHA เข้ามาช่วยในการผลัดเซลล์ผิว เราใช้ AHA และ BHA ในการผลัดเซลล์ผิวอย่างไร? ใช้หลังการล้างหน้าและการใช้โทนเนอร์  คุณสามารถใช้บริเวณรอบๆ ดวงตาได้ แต่ห้ามใช้ตรงเปลือตา หรือที่ตาโดยตรง  หลังการใช้ AHA หรือ BHA ไม่จำเป็นต้องรอให้มันแห้ง คุณสามารถทาครีมอื่นๆ ต่อตามได้เลย ลองความเข้มข้นของ AHA …

ผลัดเซลล์ผิวดีอย่างไร? Read More »

เราจะฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพได้อย่างไร?

บ่อยครั้งที่เราส่องกระจกแล้วเราได้เห็นภาพสะท้อนอันไม่น่าพึงปรารถนากลับมา คุณอาจกำลังเผชิญกับปัญหาผิวแห้ง หยาบ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวหมองคล้ำ มีผื่นแดง และริ้วรอย ซึ่งเป็นปัญหาที่เราไม่ต้องการพบเลย แต่ถ้าหาเราสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพียงบางประการหรือทั้งหมดได้ คนส่วนใหญ่ต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน! บทความนี้จะบอกให้คุณทราบถึงขั้นตอนที่คุณสามารถในไปปฏิบัติเพื่อฟื้นฟูและเติมพลังให้แก่ผิวของคุณได้ใหม่อีกครั้ง ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามขั้นตอนดูแลผิวอันดีเยี่ยม คุณจะได้ผิวอันเนียนเรียบขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น และดูอ่อนเยาว์ขึ้น – นี่คือเรื่องจริง เราเคยเห็นผลลัพธ์เหล่านี้ด้วยตาของเราเองแล้ว และเราอยากให้คุณได้เห็นสิ่งเหล่านี้ปรากฎขึ้นบนผิวของคุณเองเช่นเดียวกัน! ฟื้นฟูผิววิธีที่ 1: หมั่นทาผลิตภัณฑ์กันแดด การทามอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่า เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากอันดับต้นๆ เพื่อช่วยให้ผิวนอ่อนเยาว์ขึ้น และสีผิวที่สม่ำเสมอ ในขั้นตอนดูแลผิวของเรานั้น การใช้ผลิตภัณฑ์มอยเจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดดของ Paula’s Choice เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เนื่องจากการออกไปเผชิญกับรังสี UV โดยไม่มีการป้องกันนั้น เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเกิดริ้วรอยของอายุซึ่งย่อมไม่เป็นที่พึงปรารถนา มักมีคำถามมาถึงเราบ่อย ๆ ว่า เราควรทาผลิตภัณฑ์กันแดดบ่อยหรือมากแค่ไหน (เรายอมรับว่า มันเป็นเรื่องค่อนข้างน่าสับสน) ซึ่งเราขอให้คำตอบดังต่อไปนี้: ค่า SPF คือ หน่วยวัดของปริมาณเวลาที่ผิวของคุณสามารถอยู่ท่ามกลางแสง UV ได้ก่อนที่ผิวของคุณจะเปลี่ยนสี  ซึ่งการเปลี่ยนสีผิวก็คือสัญญาณของความเสียหายบนผิวที่เราสังเกตได้ ถ้าหากสีผิวของคุณเปลี่ยนไปหลังจากที่คุณตากแดดเป็นเวลา 15 นาทีโดยไม่ได้ทาอะไรป้องกัน …

เราจะฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพได้อย่างไร? Read More »

ผลิตภัณฑ์ RETINOL ควรใช้อย่างไร?

Retinol หรือที่หลายๆ คนรู้จักในชื่อของ วิตามิน A  ซึ่ง Retinol นั้นถือได้ว่าเป็นส่วนผสมที่สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพผิวของเราได้อย่างชัดเจนเลยก็ว่าได้แต่หลายๆ คนก็ยังไม่ค่อยรู้ว่าเราควรจะใช้ Retinol อย่างไรกับผิวหน้าของเรา Retinol ดีต่อผิวอย่างไร? Retinol นั้น มักเป็นส่วนผสมที่เราพบบ่อยๆ ในผลิตภัณฑ์ประเภท Anti-Aging ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบ ของครีม เซรั่ม หรือ eye cream เป็นต้น Retinol  มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ อีกทั้งยังทำให้รอยต่างๆดูตื้นขึ้น , สีผิวดูสม่ำเสมอ , รูขุมขนดูเล็กลง, หน้ากระชับ และใสขึ้น  Retinol เองก็มีอยู่หลายๆ รูปแบบ ซึ่งที่พบอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็มักจะมีชื่อดังต่อไปนี้ retinyl palmitate, retinaldehyde, retinyl retinoate, and retinyl proprionate , และถึงแม้ว่า หลายๆคนจะบอกว่า Pure Retinol จะให้ประสิทธิภาพได้ดีที่สุด …

ผลิตภัณฑ์ RETINOL ควรใช้อย่างไร? Read More »

SPF

SPF ทำงานยังไง?

การป้องกันแดดด้วย Moisturizer, Primer และ foundation ที่มีค่า SPF 30 หรือมากกว่า ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ หากเราอยากให้ผิวของเราดูสุขภาพดี หรือ ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ในทางวิทยาศาสตร์ การทำงานของค่า SPF นั้นถือว่าน่าอัศจรรย์มาก แต่การทำงานของมันก็ค่อนข้างจะซับซ้อนเช่นกัน รังสี UVA และ รังสี UVB รังสีที่สะท้อนมาจากดวงอาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นวันที่ เมฆ เต็มท้องฟ้า หรือวันที่ฝนตกก็ตามรังสีสองชนิดที่ส่งผลกระทบต่อผิวของเราโดยตรงก็คือ รังสี UVA และ รังสีUVB รังสี UVB ส่งผลกระทบต่อผิวชั้นบนของเรา ซึ่งอาจทำให้ผิวไหม้ได้ ส่วนรังสี UVA เราอาจจะไม่รับรู้ได้เหมือนรังสี UVB แต่มันจะทำร้ายลึกลงไปในใต้ผิวหนัง ซึ่งระยะยาวอาจก่อให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นที่ผิวเราได้  แต่อย่างไรก็ดีรังสีทั้งสองก็เป็นต้นเหตุที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ด้วยเช่นกัน  รังสี UVB นั้นจะมีมากในช่วงเวลา 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น ส่วนรังสี UVA นั้นจะมีตลอดทั้งวันตราบใดที่เรายังมองเห็นแสงสว่าง SPF (Sun Protection Factor) …

SPF ทำงานยังไง? Read More »

Sunscreen

สัญลักษณ์ PA+ บนผลิตภัณฑ์กันแดด หมายถึงอะไร?

เรามักจะเห็นคำว่า SPF บ่อยๆ บนผลิตภัณฑ์กันแดด ซึ่งย่อมาจากคำว่า Sun Protection Factor ซึ่งเป็นค่าที่บ่งบอกว่า ผิวของคุณจะถูกป้องกันไม่ให้เกิดการผิวไหม้จากรังสี UVB ได้นานเท่าไร  ส่วนรังสี UVA ถือว่าเป็นภัยเงียบ ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดอะไรและไม่ได้ก่อให้เกิดผิวไหม้ แต่อาจทำให้ผิวคล้ำลง นอกจากคำว่า SPF ที่ติดอยู่ที่ครีมกันแดดแล้ว สัญลักษณ์อีกตัวนึงที่เราพบเจอบ่อยก็คือคำว่า PA+ ,PA++ , PA+++ ค่า PA ต่างๆ หมายถึงอะไรบ้าง PA+ = ป้องกันรังสี UVA ได้บ้างเล็กน้อย  PA++ = ป้องกันรังสี UVA ได้ปานกลาง PA+++ = ป้องกันรังสี UVA ได้เยอะ PA++++ = ป้องกันรังสี UVA ได้เยอะมากๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกประเทศที่ใช้สัญลักษณ์ PA ในการวัดค่าป้องกันของรังสี เพราะค่า PA  เป็นการวัดเฉพาะรังสี UVA ที่จะสามารถเปลี่ยนสีผิวของเราให้คล้ำลงเท่านั้นหรือเราเรียกกระบวนการนี้ว่า PPD ( Persistent Pigment …

สัญลักษณ์ PA+ บนผลิตภัณฑ์กันแดด หมายถึงอะไร? Read More »

เลือก Eye Cream ให้เหมาะที่สุดยังไง…

วิธีการเลือกซื้อ Eye cream เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้ใช้ Eye cream ที่ดีและมีประโยชน์ที่สุด คุณควรเลือกพิจารณา eye cream ดังต่อไปนี้ 1.ควรมีส่วนผสมของสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายๆอย่างที่มีคุณสมบัติช่วย ลดริ้วรอย หรือป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร และสารประกอบที่มีคุณสมบัติ ช่วย บำรุงผิวและฟื้นฟู ผิว เช่น glycerin, sodium hyaluronate, ceramides, non-fragrant plant extracts, butters and oils, vitamins, peptides, retinol, fatty acids, and triglycerides 2.ปราศจากน้ำหอม และส่วนผสมของ essential oils ซึ่งสารเหล่านี้อาจก่อการระคายเคืองต่อผิวเราได้ง่าย 3.คุณสมบัติของ Eye cream ที่ดีต้องช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น, ทำให้ผิวเรียบเนียน กระชับขึ้นและ ริ้วรอยดูจางลง 4.ไม่ควรเลือกซื้อ Eye cream ที่อยู่ในรูปของ ตลับ เนื่องจากเวลาเปิดใช้ อาจทำให้ให้อากาศเข้าไปสัมผัสกับตัวครีมได้… …

เลือก Eye Cream ให้เหมาะที่สุดยังไง… Read More »

ทำอย่างไรให้ ผิวหน้าสว่างใส ดูเปล่งปลั่ง และสุขภาพดี

แนะนำผลิตภัณฑ์ Paula’s Choice 3 ตัว ดังต่อไปนี้ Whitening Mask RESIST C15 Super Booster Resist Pure Radiance Skin Brightening Treatment ขั้นตอนแรก ควรใช้ AHA หรือ BHA ก่อน เพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ให้หลุดออกไป และช่วยให้ผิวใหม่เรา เรียบเนียน และนุ่มขึ้น หลังจากขั้นตอน การผลัดเซลล์ผิวแล้ว ก่อนที่เราจะใช้เซรั่ม หรือ มอยเจอไรเซอร์ ให้เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ดังต่อไปนี้   RESIST C15 Super Booster.หรือ วิตามินซี ตัวนี้ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับผิว , ทำให้ผิวดูสว่างใสขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะต่างๆได้อีกด้วย RESIST Pure Radiance Brightening Treatment เป็นเนื้อ lotion ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide …

ทำอย่างไรให้ ผิวหน้าสว่างใส ดูเปล่งปลั่ง และสุขภาพดี Read More »

Acne&Aging Skin

ดูแลปัญหาสิวและปัญหาริ้วรอยอย่างไรดี?

การเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาสิวหรือปัญหาริ้วรอยแห่งวัยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หากว่าคุณกำลังเผชิญกับปัญหาผิวดังกล่าวอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ แต่ถ้าหากคุณกำลังประสบกับปัญหาผิวทั้งสองอย่างพร้อม ๆ กัน นั่นก็จะเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดใจเป็นอย่างยิ่ง ความน่ากังวลใจอย่างหนึ่งของการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาสิวก็คือ มันอาจทำให้ผิวของคุณแห้งหรือลอก ซึ่งนั่นจะทำให้ปัญหาริ้วรอยเลวร้ายยิ่งขึ้น แต่ในอีกทางหนึ่ง การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ขต่อต้านริ้วรอย โดยเฉพาะชนิดที่เป็นครีมหรือมีเนื้อข้น ปัญหาสิวหรือรูขุมขนอุดตันก็อาจแย่ลงได้ แล้วในภาวะได้อย่าง-เสียอย่างเช่นนี้ เราจึงควรทำอย่างไรดี? คำตอบ คือ ใช้ทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาสิว (ที่จะไม่ทำให้ปัญหาริ้วรอยเลวร้ายขึ้น) และผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย (ที่จะไม่ทำให้ปัญหาสิวแย่ลง) ผสมผสานกัน    คุณเชื่อหรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์เช่นว่านี้ มีจริง! โดยผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาสิวจะต้องถูกคิดค้นด้วยสูตรอันอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวแห้ง และทำให้ผิวอ่อนนุ่ม แต่จะต้องคงประสิทธิภาพในการต้านปัญหาสิวไว้ ส่วนผลิตภัณฑ์สำหรับช่วยต่อต้านริ้วรอยนั้น จะต้องมีเนื้อผลิตภัณฑ์ในลักษณะเป็นน้ำ บางเบา ที่จะต้องไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาสิว จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดก็คือ ผลิตภัณฑ์ช่วยผลัดเซลล์ผิว (Exfoliant) ชนิดทาทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออกที่ไม่ทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง ซึ่งมีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิค (BHA) ส่วนผลิตภัณฑ์ต้านปัญหาสิวอย่างอื่นที่คุณต้องการ คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ เบนซอยล์ เพอร็อคไซด์ (Benzoyl Peroxide) 2.5% เนื่องจากผลิตภัณฑ์ประเภทนี้สามารถทำงานร่วมกับ BHA เพื่อช่วยควบคุมปัญหาสิวได้ ก่อนตัดสินใจพบผู้เชี่ยวชาญคุณควรทดลองใช้ผลิตภัณฑืที่มีส่วนผสมสองชนิด (BHA และเบนซอยล์ เพอร็อคไซด์) …

ดูแลปัญหาสิวและปัญหาริ้วรอยอย่างไรดี? Read More »

ผิวแห้งทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้หรือไม่?

อะไรเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น การทดสอบเรื่องการเกิดอายุของผิวบนบริเวณที่ค่อยไม่โดนแสงแดด สิ่งที่คุณสามารถทำได้ เพื่อบรรเทาสภาพผิวที่แห้งและมีริ้วรอยเหี่ยวย่น การที่ยังมีผู้คนจำนวนมากเชื่อกันอยู่ว่าผิวแห้ง คือ สาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ก็เนื่องจากว่าผิวแห้งนั้นจะดูเหี่ยวย่นกว่าผิวที่ชุ่มชื้นนั่นเอง และบางครั้งยังเชื่อกันอีกด้วยว่า ผิวปกติถึงผิวมัน เป็นผิวที่จะเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้น้อยกว่า ซึ่งที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องจากผิวเหล่านั้นมีสารให้ความชุ่มชื้นอยู่ในตัวเอง  (built-in moisturizer) จึงทำให้เนื้อผิวแลดูเรียบเนียนกว่า และเมื่อใดที่ผิวแห้งหรือขาดความชุ่มชื้น ปริมาณรอยเหี่ยวย่นที่เกิดขึ้นก็จะมักดูมากเกินจริง แม้การทามอยส์เจอไรเซอร์ลงบนผิวจะทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นจางลง ซึ่งทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่นั่นก็เป็นคนละเรื่องกับการมอบสิ่งที่ผิวต้องการสำหรับการสร้างผิวขึ้นมาใหม่ ฟื้นคืนสภาพ และรู้สึกถึงการปกป้อง และเมื่อกล่าวถึงวิธีการดูแลผิวที่ดีที่สุด ความจริงย่อมดีกว่าความเชื่อเสมอ ฉะนั้นขอให้เรามาแสวงหาความจริงกัน โดยเริ่มจากการเรียนรู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ               อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น? ที่ผ่านมาได้มีการศึกษาเกี่ยวกับการเกิดริ้วรอยของผิวจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งที่เกี่ยวกับ “ปัจจัยภายนอก” และ “ปัจจัยภายใน” โดยคำว่า “ปัจจัยภายนอก” หมายถึง สิ่งต่างๆ ที่ล้อมรอบตัวเรา และคำว่า “ปัจจัยภายใน” หมายถึง สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในร่างกายซึ่งส่งผลกระทบต่อรูปโฉมของผิวในท้ายที่สุด การเกิดริ้วรอยของผิวโดยปัจจัยภายนอกนั้น โดยหลักใหญ่แล้วเกิดจากการทำลายจากแสงแดดเนื่องจากการออกไปเผชิญกับแสงแดดโดยไม่มีการปกป้องผิว นอกจากนั้น ยังรวมถึงการถูกทำลายจากสภาพแวดล้อมด้วย เช่น …

ผิวแห้งทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้หรือไม่? Read More »

5 วิธีในการใช้ RESIST 1% Retinol Booster

5 วิธีในการใช้ Resist 1% Retinol Booster  ที่จะช่วยเปลี่ยนสภาพผิวของคุณ Retinol ถือว่าเป็นสารหลักตัวนึงที่ช่วยดูแลแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอยได้ดี  Paula’s Choice เองได้คิดสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อว่า RESIST 1% Retinol  Booster ขึ้น โดยการทำงานของ Booster นอกจากจะใช้ทาบนใบหน้าเดี่ยวๆ ได้แล้ว  สามารถใช้ผสมร่วมกับมอยเจอไรเซอร์ หรือเซรั่มอื่นๆ ได้ด้วย เพื่อประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นในหลายๆ ด้าน ในการบำรุงผิว นี่เป็นตัวอย่างการผสมกันระหว่าง Booster กับ  Moisturizer หรือ Serum และผลลัพธ์ที่คุณต้องการ เพื่อให้ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ ผลิตภัณฑ์ RESIST Anti-Aging Clear Skin Hydrator + RESIST  1% Retinol Booster ด้วยส่วนผสมของสองตัวนี้จะช่วยปรับสภาพผิวที่เป็นหลุมเป็นบ่อของคุณให้ดูเรียบเนียนขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยปรับสภาพรูขุมขนให้ดีขึ้น ช่วยเรื่องรอยแดง และทำให้หน้าขาวกระจ่างใสได้อีกด้วย วิธีการใช้ ทา RESIST 1% Retinol Booster …

5 วิธีในการใช้ RESIST 1% Retinol Booster Read More »

Shopping Cart
Scroll to Top