ความแตกต่างระหว่างกรดไขมันโอเมก้า เซราไมด์ และเปปไทด์

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความงาม:
ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพียงชนิดเดียวที่มีประโยชน์แบบครอบจักรวาลนั้นไม่มีอยู่จริง จากงานวิจัยแสดงให้เห็นอย่างจัดเจนว่าผิวต้องการส่วนผสมที่มีประโยชน์หลาย ๆ ชนิดมาร่วมกันทำงาน ซึ่งรวมถึงกรดไขมันโอเมก้า เซราไมด์ และเปปไทด์ด้วย (และส่วนผสมอื่นอีกมากมายเช่นกัน) เนื่องจากผิวมีความซับซ้อนและต้องการส่วนผสมจากธรรมชาติมากมายหลายชนิดเพื่อให้ดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี

เราไม่เคยอยากให้คุณต้องคอยพะวงว่า คุณจะได้รับส่วนผสมถนอมผิวที่ดีที่สุดแก่ผิวของคุณมากเพียงพอหรือเปล่า และนั่นคือ
เหตุผลที่เราทุ่มเทคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ที่จะมีแต่ส่วนผสมอันยอดเยี่ยมมากมายอยู่ในนั้นเท่านั้น ขั้นตอนต่อไป คือ คุณต้องเป็นผู้พิจารณาว่าส่วนผสมใดบ้างที่เหมาะสำหรับคุณ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องยาก ความจริงแล้ว มันเป็นเรื่องของความชอบ และการทดลองใช้เพื่อดูว่าส่วนผสมใดมอบผลลัพธ์ที่คุณต้องการได้ดีที่สุด

หากพูดถึงผลิตภัณฑ์ของเราที่มีส่วนผสมของกรดไขมันโอเมก้า เซราไมด์ และเปปไทด์ สิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ คือ สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าส่วนผสมใดที่เหมาะกับคุณ และคุณจะสังเกตเห็นว่า ส่วนผสมกลุ่มนี้ มีบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน และแตกต่างกัน

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ กรดไขมันโอเมก้า
ลักษณะเด่นของ กรดไขมันโอเมก้า:

• เพิ่มและรักษาปริมาณความชุ่มชื้น
• เสริมสร้างความแข็งแรงและการทำหน้าที่ของผิวชั้นบนสุด
• ลดความแห้งกร้าน
• ลดผื่นแดงและอาการแพ้ของผิว
• ปรับปรุงสภาพรอยเหี่ยวย่นของผิว
• ปกป้องผิวจากการทำลายและความเสียหายจากมลภาวะ

กรดไขมันโอเมก้า แตกต่างจาก เซราไมด์ และ เปปไทด์ อย่างไร:

• ช่วยทำให้ผิวสงบ รวมถึงช่วยบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากมลภาวะได้อย่างดีเยี่ยม
• ช่วยรักษาปริมาณความชุ่มชื้นในผิวได้อย่างดีเยี่ยม สารโอเมก้าแต่ละชนิดต่างช่วยกันทำงานเป็นทีม
• ไม่มีผลช่วยปรับปรุงสีผิว หรือช่วยให้ผิวตึงกระชับได้อย่างเด่นชัด

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ เซราไมด์
ลักษณะเด่นของ เซราไมด์:

• เพิ่มและรักษาปริมาณความชุ่มชื้น
• เสริมสร้างความแข็งแรงและการทำหน้าที่ของผิวชั้นบนสุด
• ปกป้องผิวจากการทำลายและความเสียหายจากมลภาวะ
• ปรับปรุงสภาพรอยเหี่ยวย่นของผิว
• ช่วยสอนให้ผิวสร้างความตึงกระชับขึ้น

เซราไมด์ แตกต่างจาก กรดไขมันโอเมก้า และ เปปไทด์ อย่างไร:

• ช่วยให้ผิวเรียนรู้วิธีฟื้นคืนสภาพ และสร้างผิวใหม่ด้วยตนเอง
• ช่วยสอนให้ผิวสร้าง เซราไมด์ เพิ่มขึ้นด้วยตนเอง
• เกิดขึ้นได้ในปริมาณที่เหมาะสมโดยธรรมชาติ ในผิวที่อ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี
• ไม่มีผลช่วยปรับปรุงสีผิว หรือการเปลี่ยนสีผิว ที่เห็นด่นชัด

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ เปปไทด์
ลักษณะเด่นของ เปปไทด์:

• เปปไทด์ มีหลายชนิด และแต่ละชนิดช่วยสอนให้ผิวทำบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษ เช่น ช่วยปรับปรุงลักษณะสีผิว ความตึงกระชับ ช่วยลดเลือนริ้วรอยด้วยการสร้างชั้นผิวขึ้นมาเพื่อให้ทำหน้าที่เหมือนผิวอันอ่อนเยาว์ และช่วยคงสภาพผิวชั้นบนสุดให้เนียนเรียบและดูมีสุขภาพดี

เปปไทด์ ต่างจาก กรดไขมันโอเมก้า และ เซราไมด์ อย่างไร:

• สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างผิวเพื่อให้มอบคุณประโยชน์ต่างๆ ไปยังบริเวณที่เกิดปัญหาได้
• สามารถฝึกฝนผิวชั้นบนให้มีดูอ่อนเยาว์ในหลายลักษณะ
• ช่วยฟื้นคืนสภาพ โปรตีน และ หน่วยที่เป็นโครงสร้างของผิว
• ไม่ได้มอบความชุ่มชื้นมากเท่ากับ เซราไมด์ หรือ กรดไขมันโอเมก้า แต่ทำงานร่วมกับส่วนผสมเหล่านั้นได้อย่างยอดเยี่ยม

คุณจำเป็นต้องใช้ส่วนผสมทั้งหมดนี้เลยหรือไม่?

คุณจำเป็นต้องใช้ส่วนผสมทั้งหมดนี้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการในการดูแลผิวของคุณ แต่แน่นอนว่าส่วนผสมเหล่านี้เป็นส่วนผสมอันยอดเยี่ยม และมีคุณประโยชน์ต่อผิวทุกประเภท สำหรับความต้องการในการดูแลผิวบางประการ ถ้าหากมีผลิตภัณฑ์ใดที่มีส่วนผสมของ เซราไมด์ เปปไทด์ และกรดไขมันโอเมก้าครบทั้งสามชนิด ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก แต่สำหรับปัญหาผิวที่ซับซ้อนบางอย่าง คุณอาจจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมบางชนิดในปริมาณที่เข้มข้นมากที่คุณสามารถนำมาทาเพิ่มต่อจากผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้อยู่ได้ ถ้าหากคุณมีผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น หรือถ้าหากผิวของคุณแพ้ หรือขึ้นผื่นแดงง่าย คุณก็จะเห็นว่าการใช้ผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่มีส่วนผสมของกรดไขมันโอเมก้า, เซราไมด์ และเปปไทด์ ร่วมกันจะได้ผลดีที่สุด

ถ้าหากคุณเป็นผู้ที่มีผิวผสม ถึงผิวมัน หรือมีผิวที่เป็นสิวง่าย ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะที่สุด คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดไขมันโอเมก้า แต่ถ้าหากคุณต้องการสร้างสมดุลให้กับกรดไขมัน (lipids) และเปปไทด์ เนื่องจากสารเหล่านี้มีคุณประโยชน์หลายด้าน โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็นผู้ที่มีผิวมันและมีริ้วรอย ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคุณมากกว่า เมื่อพูดถึงริ้วรอย จะมีส่วนผสม 3 กลุ่มที่สามารถช่วยปรับสภาพผิวให้ดีขึ้นได้อย่างเด่นชัด ตั้งแต่ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่น ช่วยลบเลือนริ้วรอย และช่วยลดความไม่ราบเรียบของผิวซึ่งคุณสามารถเริ่มใช้ส่วนผสมเหล่านี้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด

เราขอแนะนำให้คุณทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมต่างๆ เหล่านี้ดู โดยอาจจะลองใช้ทั้งหมดพร้อมๆ กัน หรืออาจจะสลับวันกันทา ซึ่งเราเชื่อว่าความคล้ายคลึงและความแตกต่างกันของส่วนผสมเหล่านี้ จะช่วยมอบคุณประโยชน์ให้แก่ผิวของคุณเพิ่มขึ้นหลายเท่าทวีคูณทีเดียว!

ข้อมูลที่นำมาใช้อ้างอิง
Clinics in Dermatology, October 2017, ePublication and กรกฎาคม-สิงหาคม 2010, หน้า 440–451
International Journal of Cosmetic Science, มิถุนายน 2017, หน้า 284–291
Journal of Cosmetic Dermatology, ธันวาคม 2016, หน้า 549–558
ChemMedChem, สิงหาคม 2016, หน้า 1850-1855
Bulletin of Experimental Biology and Medicine, พฤษภาคม 2016, หน้า 175–178
https://lpi.oregonstate.edu/mic/health-disease/skin-health/essential-fatty-acids