เมื่อกล่าวถึง ขั้นนตอนดูแลผิวที่คุณทำอยู่ และผลิตภัณฑ์ถนอมผิวที่คุณเลือกนำมาใช้ มันไม่แปลกเลยที่คุณอาจสงสัยว่า จริงๆ แล้วมันได้ผลหรือไม่ และคุณอาจหงุดหงิดใจยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าหากสงสัยว่า ขั้นตอนเหล่านี้ทำให้ปัญหาที่คุณเผชิญอยู่เลวร้ายลงหรือไม่!
เราเข้าใจดีว่า นี่เป็นเรื่องนี่น่าสับสนมากแค่ไหน โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังใช้ขั้นตอนดูแลผิวที่ซับซ้อน ซึ่งต้องใช้ผลิตภัณฑ์มากมายหลายอย่าง อย่างไรก็ตาม การรู้ว่า คุณคาดหวังที่จะได้ผลลัพธ์แบบใด และทำไมผลลัพธ์ที่คุณได้กลับไม่เป็นไปตามที่คุณหวังไว้ หรือกลับกลายเป็นอย่างอื่นที่คุณไม่ได้คาดคิด เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
เราอยากให้คุณเข้าใจว่า ผลลัพธ์อะไรที่เป็นไปได้ และอะไรที่เป็นไปไม่ได้การมีความคาดหวังที่ตั้งอยู่บนหลักแห่งความเป็นจริง คือสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากการคาดหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้รังแต่จะนำความสิ้นเปลือง และผิวเสียหายให้กับคุณเท่านั้น ความจริง คือมีเพียงความคาดหวังที่ตั้งอยู่บนหลักแห่งความเป็นจริงและการใช้ชั้นตอนดูแลผิวรวมถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมเท่านั้นที่จะบรรดาลให้คุณมีผิวที่ดีที่สุดได้
วิธีที่จะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการ
คำถาม คือ แล้วคุณจะรับรู้ได้อย่างไรว่าคุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้จากผลิตภัณฑ์ถนอมผิวที่คุณกำลังใช้? รายการข้างล่างนี้ คือ แนวทางที่เราใช้วัดความสำเร็จ ขอให้คุณปฏิบัติแนวทางเหล่านี้ เพื่อให้มั่นว่าคุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากขั้นตอนดูแลผิวและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของคุณ
1. มองข้ามคำอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง โดยทั่วไปคำอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงของสินค้า ถ้าไม่ทำให้เข้าใจผิด ก็มักจะเป็นคำอวดอ้างที่ไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง มีตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างหนึ่งที่มักกวนใจเราเสมอ คือ มีผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับทาตอนกลางวันยี่ห้อหนึ่งที่อวดอ้างว่า ทาแล้วช่วยชะลอวัยได้ แต่ในผลิตภัณฑ์นั้นไม่มีส่วนผสมของสารกันแดดเลย (หรือถ้ามีก็เป็นสารกันแดดที่มีค่า SPF ต่ำกว่า 30) ถ้าหากคุณไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ทากันแดดที่ค่า SPF 30 หรือสูงกว่า ตลอด 365 วันในหนึ่งปี ไม่ว่าฝนจะตก หรือแดดจะออก คุณมั่นใจได้เลยว่า ยังไงเสีย ปัญหาริ้วรอยแห่งวัย สีผิวไม่สม่ำเสมอ รอยขรุขระบนผิว ก็จะยังคงอยู่กับคุณไปอีกนาน หรือเลวร้ายลงแน่ๆ
2. เลิกค้นหาส่วนผสมมหัศจรรย์ หรือผลิตภัณฑ์มหัศจรรย์ ข้อเท็จจริง คือ ไม่มีส่วนผสมหรือผลิตภัณฑ์ใด ที่คุณใช้เพียงอย่างเดียวแล้วสามารถแก้ไขปัญหาผิวของคุณได้ทุกปัญหา หรือบันดาลทุกอย่างที่คุณต้องการเกี่ยวกับผิวของคุณได้ เหมือนกับร่างกายของคนเราที่ต้องการสารอาหารที่มีความหลากหลายเพื่อให้มีสุขภาพดี ผิวของเราก็เช่นเดียวกันที่ต้องการ “สารบำรุง” ที่มีความสมดุล จากส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ที่ผ่านการคัดสรรอย่างดี ที่เราป้อนให้ผ่านทางขั้นตอนและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เราใช้เป็นประจำ
ทุกสิ่งที่ผิวของคุณต้องการไม่อาจบรรจุอยู่ภายในเพียงผลิตภัณฑ์เพียงชิ้นเดียวได้ และแน่นอนว่าส่วนผสมอย่างใดอย่างหนึ่งที่ถูกปั่นจนเกิดกระแสนั้นก็ไม่อาจมอบทุกสิ่งที่ผิวของคุณต้องการได้เช่นกัน ฉนั้น การค้นหาส่วนผสมมหัศจรรย์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วจบทุกปัญหาก็เท่ากับการคดโกงผิวของคุณ ทำให้คุณต้องเสียโอกาสครั้งสำคัญที่จะได้เป็นเจ้าของผิวที่มีสุขภาพดีขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสำคัญๆ ที่เป็นประโยชน์หลากหลาย
3. เลือกใช้ผลิตภัณธ์ที่จะนำมาใช้ในขั้นตอนดูแลผิวอย่างระมัดระวัง สำหรับบางคน เพียงการใช้ผลิตภัณฑ์และขั้นตอนดูแลผิวแบบพื้นฐานก็สามารถได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแล้ว แต่สำหรับคนอื่น ๆ อาจไม่ใช่ ผลิตภัณฑ์และขั้นตอนดูแลผิวในแบบพื้นฐานอาจไม่เพียงพอที่จะมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้ และอาจจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์และขั้นตอนดูแลผิวที่มีความล้ำหน้ากว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทผิว ปัญหาผิว และความชอบของคุณ ผิวที่มีความต้องการอันซับซ้อน เช่น ต้องการส่วนผสมสำคัญๆ ที่เป็นประโยชน์เพื่อบำรุง ต้องการการปกป้องจากการทำลายของแสงแดด ต้องการความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ ต้องการส่วนผสมบำรุงเพื่อฟื้นคืนสภาพสำหรับช่วยชะลอวัย ต้องการให้สีผิวสม่ำเสมอเท่ากัน ฯลฯ จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมอย่างหลายอย่าง
4. มีความสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ดังใจปรารถนา คุณจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์และปฏิบัติตามขั้นตอนดูแลผิวของคุณอย่างสม่ำเสมอ คุณอาจจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์บางชิ้นวันละสองครั้ง (เช่น เคลนเซอร์ โทนเนอร์ เซรั่ม) บางชิ้นใช้เพียงวันละครั้ง (เช่น ผลิตภัณฑ์ทากันแดดสำหรับทาในตอนกลางวัน มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับทาตอนกลางคืน และผลิตภัณฑ์ช่วยผลัดเซลล์ผิว) และบางชิ้นใช้ทุกวันเว้นวัน (เช่น ผลิตภัณฑ์เรตินอล 1% หรือผลิตภัณฑ์แก้ไขปัญหาผิวเฉพาะอย่างหรือเฉพาะที่) หรือบางชิ้นใช้สัปดาห์ละครั้ง (เช่น ผลิตภัณฑ์ช่วยผลัดเซลล์ผิวชนิดที่แรงกว่าปกติ) นอกจากนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตามลำดับที่ถูกต้องก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน
5. อย่าข้ามไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยผลัดเซลล์ผิว และผลิตภัณฑ์ทากันแดด ไม่มีสิ่งใดที่จะสร้างความประทับใจบนผิวได้มากเท่ากับ สิ่งที่ผลิตภัณฑ์ช่วยผลัดเซลล์ผิว AHA หรือ BHA ที่มีสูตรส่วนผสมที่ดีและอ่อนโยนมอบให้อีกแล้ว และที่สำคัญกว่านั้น คือ การใช้ผลิตภัณฑ์ทากันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่าเป็นประจำทุกวันโดยไม่ขาด นี่เป็นหลักพื้นฐานที่จะช่วยให้คุณเริ่มเป็นเจ้าของผิวอันอ่อนโยน และดูงดงามในทุกมุมมองได้ และยิ่งคุณใช้ผลิตภัณฑ์ทากันแดดตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์ ร่วมกันมาตรการปกป้องผิวจากแดดอื่น ๆ คุณยังจะลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย
6. อย่าคาดหวังว่าผลลัพธ์ที่ต้องการจะเกิดขึ้นภายในพริบตา คุณไม่ได้มีริ้วรอยเหี่ยวย่น และผิวเสียจากแสงแดดเกิดขึ้นในทันทีที่คุณตื่นนอนในตอนเช้า ดังนั้นเช่นเดียวกัน อย่าคาดหวังว่า ปัญหาผิวเหล่านั้นจะหายไปหมดโดยสิ้นเชิงภายในชั่วข้ามคืน มีผลิตภัณฑ์บางชิ้นที่อาจให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้ภายในชั่วข้ามคืน (โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์ช่วยผลัดเซลล์ผิว AHA หรือ BHA) แต่สำหรับผลลัพธ์โดยส่วนใหญ่ จำเป็นต้องให้เวลากับผลิตภัณฑ์ในการทำงาน คุณจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์อย่างเพื่อคงผลลัพธ์ไว้ให้ได้นาน ฉนั้นขอกล่าวอีกครั้งว่า กุญแจสำคัญ คือ ความสม่ำเสมอ ยกตัวอย่าง เช่น ผลิตภัณฑ์ทาเพื่อให้สีผิวสม่ำเสมอเท่ากัน หรือลดเลือนรอยดำคล้ำบนผิว จำเป็นต้องใช้เวลาในการทาหลายสัปดาห์กว่าผลลัพธ์เหล่านั้นจะปรากฎขึ้น
7. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหยาบกระด้างและทำร้ายผิว ความอ่อนโยน คือ จุดเปลี่ยนอันเด่นชัดที่สุดในผลิตภัณฑ์ถนอมผิวชั้นเยี่ยม สิ่งที่สำคัญมาก คือ ผลิตภัณฑ์ถนอมผิวต้องไม่ก่อการระคายเคือง เพราะถ้าหากผลิตภัณฑ์ใดที่ใช้แล้วทำให้ผิวของคุณเกิดระคายเคือง ผิวของคุณก็จะเปราะบางต่อการทำลายของมลภาวะมาก การทำให้ผิวของคุณเกิดการระคายเคืองเป็นประจำ ก็จะเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และฟื้นฟูตัวเองของผิว การหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ก่อปัญหาผิว (รวมถึงส่วนผสมที่ให้กลิ่นหอม หรือน้ำหอมต่างๆ ) ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก
นอกจากนั้น ขอให้ระลึกเสมอว่า ผิวชั้นบนสุดของคุณไม่ได้แสดงปฏิกริยาตอบสนองในเชิงลบต่อส่วนผสมที่ก่อปัญหาให้คุณเห็นเสมอไป แต่ความเสียหายจะยังคงเกิดขึ้น ซึ่งคุณมองไม่เห็น คุณอาจไม่เห็นหรือรู้สึกถึงปฏิกิริยาต่างๆ แต่ถ้าผลิตภัณฑ์ที่คุณกำลังใช้ไม่มีความอ่อนโยนต่อผิว ความเสียหายก็จะก่อตัวอย่างเงียบๆ และนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ในอนาคต
8. ความไวในการตอบสนองต่อส่วนผสมของผิวของคุณเอง จริงๆ แล้วคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ผิวของคุณจะตอบสนองอย่างไรแม้แต่กับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นด้วยสูตรส่วนผสมที่ดีที่สุดก็ตาม ดังนั้น คุณต้องคอยหมั่นสังเกตด้วยความใส่ใจว่า ผิวของคุณมีการตอบสนองอย่างไร ความรู้สึกเย็นซาบซ่าผิว ก็ถือว่าเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง เนื่องจากมันเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่แสดงว่าผิวของคุณกำลังโดนทำร้าย ไม่ใช่สัญญาณว่า ผลิตภัณฑ์กำลัง “ได้ผล”